|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาในเรื่องของ "ท้าวหิรัญพนาสูร" เทพผู้อารักขารัชกาลที่ 6 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสมัย ร.ศ.126 เมื่อครั้งที่ยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ ขณะที่เสด็จประพาสเมืองลพบุรีในคืนวันเสด็จประพาสคืนหนึ่ง มีผู้ตามเสด็จท่านหนึ่งได้มีนิมิตในฝันประหลาด เห็นอสูรชาวป่า(เป็นชายร่างล่ำสันใหญ่โต) บอกว่าชื่อ "หิรัญ" มาบอกว่า ต่อแต่นี้เขาจะคอยตามเสด็จล้นเกล้าฯ ไม่ว่าจะประทับอยู่ที่ใด เขาจะคอยดูแลและระวังภัยไม่ให้เกิดขึ้นกับพระองค์ท่านได้ เมื่อทรงทราบเหตุการณ์ในฝันของผู้ตามเสด็จจึงทรงมีพระราชดำรัสให้ จัดเตรียมอาหารเซ่นสังเวย จุดเทียน "อสูรชาวป่า" ตนนี้ในป่าเมืองลพบุรีนั้นทันทีและทุกครั้งไม่ว่าจะเสด็จประพาสไปแห่งหนตำบลใด พระองค์จะมีพระราชดำรัสให้จัดอาหารเซ่นสังเวย "ท้าวหิรัญฮู" ทุกครั้งไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ย้อนหลังไปเมื่อครั้ง ยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปประพาส ณ มณฑลพายัพโดยขบวนรถไฟหลวงไปถึงนครสวรรค์ ก็เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนเรือพระที่นั่งไปขึ้นฝั่งอุตรดิตถ์ และเสด็จพระราชดำเนินโดยทรงม้าต่อไป โดยจะต้องเสด็จฯผ่านป่ารกชัฏ และมืดครึ้มของดงดิบตลอดจนเรื่องที่น่ากลัวโดยเฉพาะไข้ป่าที่ขึ้นชื่อลือชาว่าน่าสยองเป็นที่สุดสำหรับคนสมัยนั้น แม้กระทั่งเรื่องของเจ้าป่าเจ้าเขาและผีป่า ที่เป็นที่น่าหวาดกลัวของผู้ตามเสด็จทุกคน (เรื่องที่ฝังรากหยั่งลึกอยู่ในจิตใจของคนไทยมาช้านานจนถึงปัจจุบัน) ด้วยการที่คนในสมัยนั้นยังไม่รู้จักการระมัดระวังในเรื่องไข้ป่าและการรักษาโรคก็ไม่ได้มีวิวัฒนาการในการรักษาเหมือนปัจจุบันจึงได้มีผู้ล้มป่วยเป็นไข้ป่าอยู่เป็นอันมาก |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เมื่อพลบค่ำ ของวันหนึ่งที่เสด็จพระราชได้ทรงสุบินนิมิตเห็นบุรุษชาติผู้หนึ่ง กอปรด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตแลกล้ามเนื้ออันล่ำสันบึกบึน มีผิวกายคล้ำ มิได้สวมเสื้อ นุ่งเพียงผ้าเตี่ยวมีลายเชิงสีแดงคาดรัดเอวอย่างงดงาม บนศีรษะครอบไว้ด้วยชฎาทรงเทริด ย่างกายเข้ามาด้วยความอ่อนน้อมแต่ทว่าองอาจผ่าเผย มาหยุดยืนอยู่เบื้องปลายแท่นพระบรรทมแล้ว ก็ยกมือขึ้นประนม แล้วกราบบังคมทูลขึ้นว่า ข้าพระพุทธเจ้าชื่อ ฮู เป็นอสูรชาวป่า มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระองค์ ขอถวายตัวเพื่อเป็นข้าบริพารคอยติดตามเสด็จรับใช้ เพื่อพิทักษ์เบื้องพระยุคลบาท มิให้ภยันตรายมากร้ำกรายพระองค์ไปด้วยทุกแห่งหน พระองค์จึงทรงมีพระราชดำรัสถามว่า แล้วจะให้ข้าพเจ้าปฏิบัติอย่างไร อสูรตนนั้นได้กราบบังคมทูลว่า ไม่อะไรมาก ขอพระองค์โปรดพระราชทานที่เฉพาะให้ข้าพระพุทธเจ้าอยู่ และแบ่งพระกระยาหารจากเครื่องเสวยของพระองค์ให้ข้าพระพุทธเจ้า ก็เพียงพอแล้ว เมื่อจบ การสนทนา อสูรชาวป่าก็ถวายบังคมลาอันตรธานไปในที่สุด หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาข้าราชบริพารที่เป็นไข้ป่าทั้งหลายทั้งปวงก็พากันหายจากอาการ เจ็บป่วยโดยสิ้นเชิงสมจริงดังคำอ้างของอสูรตนนั้นและบรรดาข้าราชบริพารที่ตามเสด็จไปด้วย ก็มักจะพบเห็นชายรูปร่างใหญ่โตน่าเกรงขามคนหนึ่งมักนั่งหรือยืนอยู่ ใกล้ ๆที่ประทับของพระองค์เป็นประจำ ความข้อนี้ทราบถึงพระเนตรพระกรรณทรงเวลาเสวยก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้แบ่งพระกระยาหารจาก เครื่องต้น ไปเซ่นสรวงเสมอหรือไม่ก็ให้จัดเครื่องโภชนาการเลิศรสไปเซ่นสังเวยที่ริมป่าละเมาะใกล้บริเวณพลับพลาที่ประทับนั้น และได้ถือเป็นพระราชกรณียกิจจนกระทั่งสิ้นสมัยรัชกาลของพระองค์ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|